ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ข้อมูลอ้างอิง
dot
bulletกฎหมายอ้างอิงใน-ทัศนะฯ/ข่าวด่วนฯ
dot
ต้องการรับข่าวสารทาง E-mail โปรดกรอก Address

dot


หลักสูตรอบรม Update การภาษีอากรและบัญชี นับชั่วโมงได้ครบถ้วนสำหรับ TA/สำนักงานบัญชีตัวแทน พ่วงด้วยในส่วนของ CPA และผู้ทำบัญชีเก็บชั่วโมงบัญชีได้ 6 อื่นๆ 7 รวม 13 ชั่วโมง (รวมจรรยาบรรณ 1 ชั่วโมง)
ให้การอบรม/สัมมนาที่เข้มข้น และนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เพียงถือว่าได้ผ่านการอบรมแล้ว แต่ปฏิบัติจริงไม่เป็น "หลักสูตรดี อบรมเข้ม เน้นปฏิบัติได้ ต้องที่ PAT. Training & Business"
ประมวลรัษฎากร ฉบับอิเลคโทรนิค โดยกรมสรรพากร....เพื่อการอ้างอิงที่ถูกต้องครบถ้วน
เวปไซต์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อการอ้างอิงเกี่ยวกับการบัญชีและงบการเงิน
เวปไซต์ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง เพื่อการอ้างอิงเกี่ยวกับการภาษีอากร
เวปไซต์ สภาวิชาชีพบัญชีฯ เพื่อการอ้างอิงของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี


พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๑๘)พ.ศ. ๒๕๕๔ article

พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๑๘)
พ.ศ. ๒๕๕๔

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔
เป็นปีที่ ๖๖ ในรัชกาลปัจจุบัน
-----------------------------------------

                                พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
                                โดยที่เป็นการสมควรลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ บางกรณี
                                อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๓ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑ ของรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

                                มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่าพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๔

                                มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
                                มาตรา ๓ ในพระราชกฤษฎีกานี้
                                “คนต่างด้าวหมายความว่า บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
                                “ศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศหมายความว่า บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย เพื่อประกอบกิจการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนและขายสิ่งดังกล่าวให้แก่วิสาหกิจในเครือ
                                “วิสาหกิจในเครือหมายความว่า บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศ ในลักษณะดังต่อไปนี้
                                (๑) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งถือหุ้นในศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้าของทุนทั้งหมด
                                (๒) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้าของทุนทั้งหมด
                                (๓) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตาม (๑) ถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้าของทุนทั้งหมด
                                (๔) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจควบคุมกิจการหรือกำกับดูแลการดำเนินงานและการบริหารงานของศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศ
                                (๕) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศมีอำนาจควบคุมกิจการหรือกำกับดูแลการดำเนินงานและการบริหารงาน
                                (๖) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตาม (๔) มีอำนาจควบคุมกิจการหรือกำกับดูแลการดำเนินงานและการบริหารงาน

                                มาตรา ๔ ให้ลดอัตราภาษีเงินได้ในการหักภาษี ณ ที่จ่ายและคงจัดเก็บในอัตราร้อยละสิบห้าของเงินได้ สำหรับเงินได้พึงประเมินที่คนต่างด้าวได้รับเนื่องจากการจ้างแรงงานของศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศ ซึ่งเมื่อคำนวณตามมาตรา ๕๐ (๑) แห่งประมวลรัษฎากรแล้วอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีในอัตราที่กำหนดในบัญชีอัตราภาษีเงินได้ท้ายหมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร สูงกว่าร้อยละสิบห้าของเงินได้
ในกรณีเงินได้พึงประเมินตามวรรคหนึ่ง เมื่อคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามมาตรา ๕๐ (๑) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายน้อยกว่าร้อยละสิบห้าของเงินได้ให้คนต่างด้าวผู้มีเงินได้มีสิทธิได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้ดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา ๖ เมื่อคนต่างด้าวนั้นยอมให้ผู้จ่ายเงินได้หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละสิบห้าของเงินได้นั้น

                                มาตรา ๕ คนต่างด้าวซึ่งจะได้รับสิทธิตามมาตรา ๔ ต้องปฏิบัติงานประจำศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศที่มีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๒ ซึ่งมีรายได้ตามมาตรา ๙ (๑) และ (๒) รวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบของรายได้ตามมาตรา ๙ (๑) และ (๒)และรายได้จากการจัดซื้อวัตถุดิบหรือชิ้นส่วน ไม่ว่าในประเทศไทยหรือในต่างประเทศและขายวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนนั้นให้แก่วิสาหกิจในเครือที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยเพื่อการผลิตที่ได้กระทำโดยวิสาหกิจในเครือดังกล่าว เป็นเวลาห้ารอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกันนับแต่รอบระยะเวลาบัญชีแรกตามมาตรา ๑๐ โดยให้ได้รับสิทธิดังกล่าวในระหว่างการปฏิบัติงานในประเทศไทยเป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่เกินห้าปี ไม่ว่าในระหว่างเวลานั้นจะได้เดินทางออกจากประเทศไทยเป็นครั้งคราวหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ เฉพาะผู้บริหารระดับสูงหรือผู้เชี่ยวชาญระดับสูงเป็นจำนวนไม่เกินสามคนที่ศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศได้จดแจ้งต่อกรมสรรพากร ตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนดในกรณีที่ศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศขาดคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ตามมาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๑๒ หรือมีรายได้ตามมาตรา ๙ (๑) และ (๒) รวมกันน้อยกว่าร้อยละห้าสิบของรายได้ตามมาตรา ๙ (๑) และ (๒) และรายได้จากการจัดซื้อวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนไม่ว่าในประเทศไทยหรือในต่างประเทศและขายวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนนั้นให้แก่วิสาหกิจ ในเครือที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยเพื่อการผลิตที่ได้กระทำโดยวิสาหกิจในเครือดังกล่าวในรอบระยะเวลาบัญชีใด ให้สิทธิตามมาตรา ๔ ของคนต่างด้าวสิ้นสุดลงตั้งแต่ปีภาษีแรก และในกรณีที่คนต่างด้าวซึ่งได้รับสิทธิตามมาตรา ๔ มิได้ปฏิบัติงานประจำศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศในปีภาษีใด ให้สิทธิตามมาตรา ๔ ของคนต่างด้าวสิ้นสุดลงตั้งแต่ปีภาษีนั้น

                                มาตรา ๖ ให้คนต่างด้าวซึ่งถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายไว้แล้วในอัตราร้อยละสิบห้าของเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔ เมื่อถึงกำหนดยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมิน ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้พึงประเมินนั้นมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่คนต่างด้าวไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นคืนหรือไม่ขอเครดิตเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้น ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
ในกรณีที่คนต่างด้าวมีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๔) และ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา ๕๐ แห่งประมวลรัษฎากรไว้แล้ว และมีสิทธิเลือกเสียภาษีตามมาตรา ๔๘ (๓) และ (๔) แห่งประมวลรัษฎากร คนต่างด้าวจะมีสิทธิได้รับการยกเว้นตามวรรคหนึ่ง เมื่อปรากฏว่า ในการยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมิน คนต่างด้าวมิได้นำเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๔) และ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร และเงินได้พึงประเมินที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา ๔ มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ โดยต้องไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นคืนหรือไม่ขอเครดิตเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้น ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนในการได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง คนต่างด้าวต้องยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ด้วย

                                มาตรา ๗ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน ๒ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่คนต่างด้าวซึ่งปฏิบัติงานประจำศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศ สำหรับเงินได้ที่ได้รับเนื่องจากการจ้างแรงงานซึ่งเกิดจากการที่คนต่างด้าวนั้นถูกส่งตัวไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่ศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศหรือวิสาหกิจในเครือที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยไม่นำเงินได้นั้นมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

                                มาตรา ๘ คนต่างด้าวซึ่งจะได้รับสิทธิตามมาตรา ๖ และมาตรา ๗ ต้องปฏิบัติงานประจำศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศที่มีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๒ เป็นเวลาห้ารอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกันนับแต่รอบระยะเวลาบัญชีแรกตามมาตรา ๑๐ โดยให้ได้รับสิทธิดังกล่าวในระหว่างการปฏิบัติงานในประเทศไทยเป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่เกินห้าปี ไม่ว่าในระหว่างเวลานั้นจะได้เดินทางออกจากประเทศไทยเป็นครั้งคราวหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ เฉพาะผู้บริหารระดับสูงหรือผู้เชี่ยวชาญระดับสูงเป็นจำนวนไม่เกินสามคนที่ศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศได้จดแจ้งต่อกรมสรรพากร ตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด
                                ในกรณีที่ศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศขาดคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ตามมาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๑๒ ในรอบระยะเวลาบัญชีใด ให้สิทธิตามมาตรา ๖ หรือมาตรา ๗ ของคนต่างด้าวสิ้นสุดลงตั้งแต่ปีภาษีแรก และในกรณีที่คนต่างด้าวซึ่งได้รับสิทธิตามมาตรา ๖ หรือมาตรา ๗ มิได้ปฏิบัติงานประจำศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศในปีภาษีใดให้สิทธิตามมาตรา ๖ หรือมาตรา ๗ ของคนต่างด้าวสิ้นสุดลงตั้งแต่ปีภาษีนั้น

                                มาตรา ๙ ให้ลดอัตราภาษีเงินได้ตาม (ก) ของ (๒) สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลแห่งบัญชีอัตราภาษีเงินได้ท้ายหมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร และคงจัดเก็บในอัตราร้อยละสิบห้าของกำไรสุทธิ ให้แก่ศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศเป็นเวลาห้ารอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกันนับแต่รอบระยะเวลาบัญชีแรกที่ได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้ สำหรับรายได้ดังต่อไปนี้
                                (๑) รายได้จากการจัดซื้อและขายสินค้าในต่างประเทศให้แก่วิสาหกิจในเครือที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศโดยสินค้าดังกล่าวมิได้ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย
                                (๒) รายได้จากการจัดซื้อวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนไม่ว่าในประเทศไทยหรือในต่างประเทศและขายให้แก่วิสาหกิจในเครือที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ เพื่อความมุ่งประสงค์ในการผลิตในต่างประเทศที่ได้กระทำโดยวิสาหกิจในเครือดังกล่าว

                                มาตรา ๑๐ การนับรอบระยะเวลาบัญชีตามมาตรา ๕ มาตรา ๘ และมาตรา ๙ ให้นับรอบระยะเวลาบัญชี ดังต่อไปนี้
                                (๑) กรณีที่รอบระยะเวลาบัญชีเริ่มในหรือหลังวันที่ได้จดแจ้งการเป็นศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศตามมาตรา ๑๑ (๕) ให้นับรอบระยะเวลาบัญชีนั้นเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรก หรือ
                                (๒) กรณีที่มีการจดแจ้งการเป็นศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศตามมาตรา ๑๑ (๕) ระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีใด ให้นับรอบระยะเวลาบัญชีนั้นเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรกแม้ว่าจะมีระยะเวลาน้อยกว่าสิบสองเดือนก็ตาม
                                มาตรา ๑๑ ศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศที่จะได้รับสิทธิตามมาตรา ๙ ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
                                (๑) มีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่สิบล้านบาทขึ้นไป
                                (๒) มีรายจ่ายดังต่อไปนี้                                
                                      (ก) รายจ่ายในการดำเนินงานซึ่งเกี่ยวกับกิจการของศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศที่จ่ายให้แก่ผู้รับในประเทศไทยไม่น้อยกว่าสิบห้าล้านบาทในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี แต่ไม่รวมถึงค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน รายจ่ายในการดำเนินงานที่จ่ายไปต่างประเทศ ค่าสินค้า ค่าวัตถุดิบหรือชิ้นส่วน ค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์หรือสิทธิอย่างอื่น ค่าส่วนประกอบ และค่าบรรจุภัณฑ์ หรือ
                                      (ข) รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุนตามมาตรา ๖๕ ตรี (๕) แห่งประมวลรัษฎากรที่ศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศจ่ายให้แก่ผู้รับในประเทศไทย เป็นจำนวนไม่น้อยกว่าสามสิบล้านบาทในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี แต่ไม่รวมถึงเงินลงทุนในหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
                                (๓) มีวิสาหกิจในเครือ ซึ่งต้องมีการประกอบกิจการตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งและต้องมีผู้บริหารและพนักงานปฏิบัติงานในสถานประกอบการอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ต้องตรงตามที่ได้แจ้งต่อกรมสรรพากร
                                (๔) มีพนักงานปฏิบัติงานในศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศซึ่งมีทักษะและความรู้ขั้นต่ำตามที่อธิบดีประกาศกำหนด
                                (๕) ได้จดแจ้งการเป็นศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด โดยต้องจดแจ้งภายในสองปีนับแต่วันที่อธิบดีกำหนดให้มีการจดแจ้ง

                                มาตรา ๑๒ ศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศที่จะได้รับสิทธิตามมาตรา ๙ ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีปีที่สามเป็นต้นไป ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๑ และต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ด้วย
                                (๑) มีรายได้ตามมาตรา ๙ (๑) และ (๒) รวมกันไม่น้อยกว่าหนึ่งพันล้านบาทในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี และ
                                (๒) มีการจ่ายค่าจ้างแรงงานให้แก่พนักงานที่ปฏิบัติงานในกิจการของศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศ ในอัตราไม่น้อยกว่าคนละสองล้านห้าแสนบาทต่อปีเป็นจำนวนอย่างน้อยสามคน

                                มาตรา ๑๓ ในกรณีที่ปรากฏว่าศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศขาดคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๑๒ ในรอบระยะเวลาบัญชีใด ให้สิทธิตามมาตรา ๙ สิ้นสุดลงตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีแรก

                                มาตรา ๑๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
      อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
        นายกรัฐมนตรี

 

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้มีการจัดตั้งศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมการประกอบกิจการจัดซื้อและขายสินค้านอกประเทศไทยและสนับสนุนการประกอบกิจการจัดซื้อและขายวัตถุดิบและชิ้นส่วนในประเทศไทยเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าของวิสาหกิจในเครือที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ อันจะเป็นการลดต้นทุนการผลิตสำหรับการซื้อขายสินค้า วัตถุดิบ หรือชิ้นส่วนสำเร็จรูปภายในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมจากต่างประเทศ และเป็นการขยายฐานการลงทุนภาคธุรกิจอุตสาหกรรมจากต่างประเทศในประเทศไทย รวมทั้งสร้างบรรยากาศการลงทุนในประเทศไทย สมควรลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ ให้แก่ศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศและคนต่างด้าวที่ปฏิบัติงานในศูนย์ดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

                                (ร.จ. ฉบับกฤษฎีกา เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๓๑ ก วันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔)




ประมวลรัษฎากรและกฎหมาย/เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การเป็นตัวแทนรับเงิน หรือทรัพย์สินที่บริจาค เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย article
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๐๗) article
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๐๖) article
กฎกระทรวง ฉบับที่ 282 (พ.ศ. 2554) article
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการโอนกิจการบางส่วนให้แก่กันฯ article
พระราชกฤษฎีกาฯ ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๒๗) พ.ศ. ๒๕๕๔ article
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๑๙) พ.ศ. ๒๕๕๔ article
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๐๙)พ.ศ. ๒๕๕๓ article
คำชี้แจงกรมสรรพากรเรื่อง การขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีอากรให้แก่ผู้ประกอบการที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในท้องที่ที่เกิดภัยพิบัติอุทกภัย article
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๑๙๒)เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเป็นค่าอบรมสัมมนาของลูกจ้างภายในประเทศ article
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๑๙๐)เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ของบริษัทซึ่งประกอบกิจการสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค article
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 378) พ.ศ. 2544 article
กฎกระทรวงว่าด้วยการขอจดทะเบียนจัดตั้ง การบริหาร การควบ และการยกเลิกนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร พ.ศ. 2545 article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.