“เหลือแต่ผู้แพ้” บางส่วนจาก ไทยรัฐออนไลน์ โดย สายล่อฟ้า ประจำวันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554
“ที่สุดคงหนีไม่พ้นอย่างที่คาดกันว่ากรุงเทพฯก็ต้องเจอน้ำท่วมอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้นเพราะแม้แต่ ศปภ.ก็ยอมรับออกมาแล้วว่าท่วมแน่ หรือ กทม.ที่คุยหนักคุยหนาก็ประกาศให้ประชาชนเตรียมการอพยพได้เลย เพราะมวลน้ำก้อนมหึมามันไม่มีทางลงทะเลได้หากไม่ผ่านเมืองหลวง
เมื่อด้านตะวันออกและตะวันตกไม่สามารถระบายน้ำลงทะเลได้อย่างที่มีความพยายาม ดั้งนั้น มันก็ตรงดันลงมาตรงกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำและไหลลงมาได้ง่ายกว่าจุดอื่นๆ
อยู่ที่ว่าจะท่วมทั้งหมดหรือพื้นที่บางส่วน แต่ดูจากสภาพการแล้วไม่น่าจะรอด เพียงแต่ว่าพื้นที่ตรงไหนจะมากจะน้อยเท่านั้น หากอยู่ในระดับ 1 เมตรก็ยุ่งแหละครับ...เพราะทุกอย่างมันจะขับเคลื่อนอะไรไม่ได้ต้องหยุดชะงักไปทั้งหมด
“เอาอยู่...เอาอยู่” ก็กลายเป็นว่า “เอาไม่อยู่...เอาไม่อยู่” เสียแล้ว
จากนี้ไปจึงขึ้นอยู่กับว่าจะบริหารจัดการอย่างไร หากสามารถดำเนินการระบายน้ำได้เร็วความเสียหายก็พอทำเนา ตรงกันข้ามถ้าปล่อยเวลาเนิ่นนานออกไปความเสียก็มากโขแน่ ยิ่งไปกว่านั้นความเชื่อมั่นทั้งหลายทั้งปวงก็คงจะเรียกกลับคืนมาได้ยาก
พูดไปแล้วก็ต้องบอกว่าโดนกันไปถ้วนหน้าไม่ว่าคนต่างจังหวัดหรือคนกรุงเทพฯก็ได้รับทุกข์ไม่ต่างกันเป็นความเท่าเทียมที่ธรรมชาติและรัฐบาลมอบให้แก่คนไทย...”
“ไม่ต้องกลัวคนตื่นแล้ว” บางส่วนจาก ไทยรัฐออนไลน์ โดย ทีมข่าวการเมือง ประจำวันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554
“...ล่าสุดยิ่งตอกย้ำกับมุมมองของคนวงในที่เข้าไปมีส่วนเป็นแบ็กอัพให้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งศูนย์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย หัวหอกทีมงานบ้านเลขที่ 111 ได้โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊กส่วนตัว เสนอแนะและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ ศปภ.แบบถึงกึ๋น
ฟันธงเลยว่า ศปภ. และ กทม.ยังไม่เข้าใจหลักการแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเตือนภัยและชี้แจงเพื่อการเตรียมความพร้อมของประชาชน ทำให้การชี้แจงที่ผ่านมายังสับสน
โดยเฉพาะ ศปภ.เน้นเรื่องการกลัวประชาชนตื่นตระหนก ซึ่งเป็นการหลงประเด็น ที่จริงคือประชาชนต้องการรู้ว่าอาจจะเกิดอะไร จะต้องเตรียมตัวอย่างไร เมื่อไร ตามหลักของการเตือนภัยต้องให้ภาพว่า ถ้าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดอาจเป็นอย่างไรทุกฝ่ายควรเตรียมตัวอย่างไร เมื่อเห็นว่าน้ำท่วมรุนแรงมาตลอดทางและมีบางฝ่ายเห็นว่าอาจรุนแรงมาก
จะต้องเตือนให้เห็น “worst case scenario” หรือสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้ และเตรียมรับมือ
และตบท้าย นายจาตุรนต์ยังสวนกระแส ยืนยันคนใน ศปภ.ที่เตือนประชาชนอย่างเป็นประโยชน์ที่สุดคือ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ...”
ขออนุญาตยกมาเป็นตัวอย่างข้อคิดเห็นจากสื่อเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วมที่เราๆ ท่านๆ ได้ประสบกันอยู่ในขณะนี้ว่าจะหนักหนาสาหัสกันขนาดไหน ก็คงต้องทำใจยอมรับและปรับตัวอยู่กันให้ได้ต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ และก็ขอชื่นชมบรรดาพี่น้องชาวจิตอาสาทุกท่านที่ได้เสียสละแรงเงินแรงกายแรงสติปัญญาเข้าร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยกันอย่างเต็มที่เต็มใจเต็มกำลัง ขอสาธุ..อนุโมทนาในบุญกุศลครานี้ด้วยครับ
ในส่วนของเวปไซต์ก็ขอทำหน้าที่ในการรวบรวมสารสนเทศทางภาษีอากรที่เกี่ยวข้องกับมหาอุทกภัยครั้งนี้ เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้หรืออ้างอิงได้ต่อไปครับ
1. ตัวแทนรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ผู้บริจาคจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีต้องปฏิบัติดังนี้
1.1 หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การเป็นตัวแทนรับเงิน หรือทรัพย์สินที่บริจาค เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ดูรายละเอียด-โปรดคลิ๊ก)
1.2 แบบฟอร์มคำขอแจ้งเป็นตัวแทนรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ดูรายละเอียด-โปรดคลิ๊ก)
2. การยกเว้นและการบรรเทาภาระภาษีอากรสำหรับผู้ประสบอุทกภัยและผู้บริจาคช่วยเหลือมีอย่างไรบ้าง
2.1 พระราชกฤษฎีกาฯ ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๒๗) พ.ศ. ๒๕๕๔ (ดูรายละเอียด-โปรดคลิ๊ก)
2.2 กฎกระทรวงฉบับที่ 282 (พ.ศ. 2554)ฯ ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ดูรายละเอียด-โปรดคลิ๊ก)
2.3 ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๐๖) (ดูรายละเอียด-โปรดคลิ๊ก)
2.4 ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๐๗) (ดูรายละเอียด-โปรดคลิ๊ก)
ด้วยความห่วงใยและขอเป็นกำลังใจ
Webmaster