ภาษีซื้อค่าอาหารของกิจการรับจัดอบรมสัมมนา
|
ผมรบกวนขอความรู้หน่อยครับ คือ บริษัท P เป็นกิจการที่ให้บริการในการจัดอบรมสัมมนา ซึ่งจะต้องมีค่าใช้จ่ายคือค่าอาหารและเครื่องดื่ม(ช่วงพักเบรค) ซึ่งก็คือต้นทุนของการจัดอบรมสัมมนาในแต่ครั้งเช่นกัน และใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบที่กิจการได้รับในช่องรายการไม่ได้ระบุว่าเป็นอาหารประเภทใด แต่ระบุว่าเป็น "ค่าอาหารและเครื่องดื่ม" ผมรบกวนถามว่าใบกำกับภาษีดังกล่าวจะนำมาขอเครดิตได้หรือไม่ครับ และมีข้อหารือ หรือ กฎหมายระบุไว้อย่างชัดเจนหรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ
|
ผู้ตั้งกระทู้ ตัวปัญหา :: วันที่ลงประกาศ 2010-07-12 10:03:49
|
ตอบ คุณ “ตัวปัญหา”
ขอไล่ตอบไปตาม Step ดังนี้นะครับ
1. ตัวแม่ (ฐานภาษี) มีปัญหาหรือไม่? ถ้ามีปัญหาก็ไม่ต้องพูดถึงตัวลูก (ภาษีซื้อ) เลยนะครับ
=> ถ้าเรามีหลักฐานแวดล้อมอื่นๆ ประกอบด้วยอย่างชัดเจน ว่าเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริงและเกี่ยวข้องโดยตรงกับกิจกรรมการจัดอบรมสัมมนาในครั้งนี้ ก็ไม่มีปัญหาถือเป็นรายจ่ายได้ตามประมวลรัษฎากร ระวังอย่าให้เกิดเป็นการต้องห้ามตาม มาตรา 65 ตรี (9) รายจ่ายซึ่งกำหนดขึ้นเองโดยไม่มีการจ่ายจริง หรือ... และ(13) รายจ่ายซึ่งมิใช่รายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ และ(18) รายจ่ายซึ่งผู้จ่ายพิสูจน์ไม่ได้ว่าใครเป็นผู้รับ
2. เมื่อแม่ไม่ต้องห้ามเป็นรายจ่ายแล้ว ก็มาดูกันต่อในส่วนของลูกกันบ้าง
=> การที่จะนำใบกำกับภาษีซื้อดังกล่าวมาขอเครดิตได้หรือไม่ก็ต้องพิจารณาในประเด็นที่ว่า เข้าข่ายเป็นกรณีต้องห้ามนำมาหักภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่
มาตรา 82/5 ภาษีซื้อในกรณีดังต่อไปนี้ ไม่ให้นำมาหักในการคำนวณภาษีตามมาตรา 82/3
(1) กรณีไม่มีใบกำกับภาษีหรือไม่อาจแสดงใบกำกับภาษีได้ว่ามีการชำระภาษีซื้อ เว้นแต่จะเป็นกรณีมีเหตุอันสมควรตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด “แต่เรามี..นะ”
(2) กรณีใบกำกับภาษีมีข้อความไม่ถูกต้องหรือ ไม่สมบูรณ์ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด “ไหน..มาลองเช็คกันดูซิว่า ของเราไม่สมบูรณ์หรือเปล่า”
มาตรา 86/4 ... ใบกำกับภาษีต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
(1) คำว่า "ใบกำกับภาษี" ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด “มีใช่ม๊ะ?”
(2) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษี... “มีน๊ะ!!”
(3) ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ “นี่ก็มีครบนะ”
(4) หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม ถ้ามี “โอเค๊?”
(5) ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ “ปัญหาอยุ่ตรงนี้ใช่ม๊า? เดี๋ยวค่อยย้อนกลับมาดูนะ”
(6) จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าและหรือของบริการให้ชัดแจ้ง “เป็นไปตามนี้นะ”
(7) วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี “มีอยู่นะ”
(8) ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด “เช่น กรณีเอกสารออกเป็นชุด, กรณีทางราชการได้ประกาศเปลี่ยนแปลงเลขที่บ้าน ชื่อถนน หมู่บ้าน ตำบลหรือแขวง อำเภอหรือเขต หรือจังหวัด”
=>ในรายละเอียดของการปฏิบัติ ทางกรมสรรพากรได้ออกประกาศเพื่อเป็นแนวทางที่ชัดเจนขึ้น(ไม่ถือเป็นกฎหมายนะ ไม่ทำตามก็ได้) ที่เกี่ยวข้องกับใบกำกับภาษีคือ คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 86/2542 ส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีปัญหาของเราก็คือ ข้อ 4 (5) และ (6) ที่ว่า
(5) ชื่อ ชนิด ประเภท ของสินค้าหรือของบริการตามวรรคหนึ่ง ให้ระบุเฉพาะชื่อ ชนิด ประเภท ของสินค้าหรือของบริการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในใบกำกับภาษี เว้นแต่...
(6) มูลค่าของสินค้าหรือของบริการที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการให้ชัดแจ้ง…
=>การที่ใบกำกับภาษีที่ถามมา ระบุว่าเป็น "ค่าอาหารและเครื่องดื่ม" ก็เห็นว่าเพียงพอและสอดคล้องกับ มาตรา 86/4 ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 86/2542 แล้ว สรุปว่า ขอเครดิตภาษีได้ไม่ต้องห้ามครับ
Webmaster